กิจกรรมเกี่ยวกับหลักสูตรลูกเสือสำรอง(การค้นหาธรรมชาติ) | |||||||
ความมุ่งประสงค์ - ให้ลูกเสือสำรองมีความสนใจกับธรรมชาติรอบ ๆ ตัว - ให้เกิดความชื่นชมโลกของธรรมชาติและปรารถนาที่จะสงวนไว้ กิจกรรมนี้เริ่มต้นจากขั้น การสังเกต สำหรับเด็กอายุ 8 ขวบ ในเครื่องหมายดาวดวงที่ 1 มาเป็นขั้น ทำ สำหรับเด็กอายุ 9 ขวบ ในเครื่องหมายดาวดวงที่ 2 และถึงขั้น ศึกษาว่าทำไม สำหรับเด็กโตในเครื่องหมายดาวดวงที่ 3 เครื่องหมายดาวดวงที่ 1 พึงสังเกตคำว่า ท่านได้เห็น ในหลักสูตรเครื่องหมายดาวดวงที่ 1 นี่เป็นการทดสอบโดยอาศัยการสังเกตสิ่งมีชีวิตเป็นหลัก ไม่ใช่ความรู้จากหนังสือเพียงอย่างเดียว แต่ควรให้เป็นการสังเกตสัตว์เลี้ยง เช่น สุนัข แมว เต่า กระรอก ฯลฯ เท่านั้น ไม่ควรจะไปถึงสัตว์ป่าที่หายาก ซึ่งเขาเห็นเพียงในรูปเท่านั้น ถ้าลูกเสือสำรองมีโอกาสได้ศึกษาสัตว์ป่าในท้องถิ่นก็จะเป็นการดีมาก เช่นเดียวกับการศึกษาปลาและนก ส่วนที่ว่าจะเป็นอะไรนั้นขึ้นอยู่กับตัวเด็กแต่ละคนบริเวณที่เขาอาศัยอยู่ แม้แต่ในกลางเมืองก็ยังมีสวนสาธารณะและต้นไม้ซึ่งสามารถ สังเกต ได้ ดังนั้น เด็กทุกคนควรปฏิบัติกิจกรรมนี้ได้โดยไม่ต้องรอโอกาสพิเศษที่จะออกไปตามชนบท ส่งเสริมให้ลูกเสือสำรองทำแผนภูมิในสิ่งที่เขาได้ค้นพบทั้งหมด อย่าหวังผลมากจากการเขียนรายงานของเด็กอายุ 8 ขวบ แต่ควรสนับสนุนให้เด็กวาดภาพประกอบสะสมภาพและอื่น ๆ ซึ่งสามารถนำมาติดบนแผนภูมิเพื่อทำให้แผนภูมิเป็นที่น่าสนใจ คำถามและกิจกรรมบางอย่าง ซึ่งเป็นแนวทางช่วยในการศึกษาธรรมชาติของลูกเสือสำรองมีดังต่อไปนี้ สัตว์ - สัตว์ทุกชนิดมีขน อย่างเดียวกันหรือไม่ - สัตว์ที่เลือกศึกษามีขนอย่างไร - มันชอบกินและดื่มอะไร - มันชอบนอนที่ไหน - เมื่อไรมันเคลื่อนไหวได้เร็วหรือเมื่อไรมันเคลื่อนไหวช้า - ถ้าสัตว์ของเด็กเป็นสัตว์ป่ามันอาศัยอยู่ที่ไหน จากหลักฐานร่องรอยที่ปรากฏ ท่านสามารถบอกได้ไหมว่ามันอยู่ที่ไหน เช่น ตัวอย่างเปลือกไม้ที่กระต่ายแทะไว้ หรือถั่วที่หนูนาและเล็ม หรือขนสัตว์ที่ติดรั้ว บางทีสัตว์ที่ท่านเลือกเพื่อศึกษานั้น ถ้าเป็นสัตว์เลี้ยง คนที่เลี้ยงสัตว์จะให้รายละเอียดได้ดี ต้นไม้ - ต้นไม้มีรูปร่างอย่างไร ท่านสามารถที่จะวาดรูปของมันได้ไหม - เอากระดาษถูเปลือกต้นไม้ดูว่าผิวมันเรียบหรือหยาบ - รูปร่างของใบไม้เป็นอย่างไร เก็บใบไม้มาพิมพ์ลงในสมุดหรือติดไว้ในสมุดด้วยสก๊อตเทปโปร่งใสให้แลเห็น - ท่านสามารถกะความสูงของต้นไม้ได้หรือไม่ - เส้นรอบวงของต้นไม้ วัดสูงจากพื้นดินประมาณ 3 ฟุต เป็นเท่าไร - เป็นต้นไม้ชนิดมีดอกมีผลหรือไม่ - เมื่อโค่นต้นไม้นี้แล้ว ไม้ใช้ทำประโยชน์อะไรได้ - มีแมลงอะไรอยู่ในต้นไม้ มีต้นไม้เล็ก ๆ อะไรงอกอยู่ใต้ร่มของมัน ปลา - ปลาที่ท่านศึกษานั้นเป็นปลาที่อาศัยอยู่ในน้ำจืดหรือน้ำเค็ม - ท่านสามารถวาดภาพของมันได้ไหม ปลามีสีอะไร - มันกินอะไร - เมื่อไรมันจะวางไข่ - มีครีบกี่ครีบ - ครีบเหล่านี้อยู่ส่วนไหนของปลา นก - นกของท่านอาศัยอยู่เป็นประจำในบริเวณใกล้ ๆ หรือสามารถเห็นมันตามฤดูกาลเพียงปีละไม่กี่เดือน - มีสีอะไร - วาดรูปมันได้หรือไม่ - นกตัวผู้กับนกตัวเมียสีเหมือนกันหรือไม่ - มันใช้อะไรทำรัง - ส่วนมากมันทำรังที่ไหน - มันกินอะไร - ปกติออกไข่ครั้งละกี่ฟองและไข่มีสีอะไร - ท่านสามารถเลียนแบบเสียงนกร้องได้หรือไม่ - มันกระโดดหรือเดิน - มันบินได้อย่างไร บินเป็นทางตรง โฉบไปโฉบมา หรือร่อนไปมา - ท่านสามารถสะสมขนนกไว้เพื่อประกอบความรู้ได้หรือไม่ เครื่องหมายดาวดวงที่ 2 การปลูกผักบางอย่าง ต้นหอมหรือพืชมีหัว สามารถใช้หัวหรือใบรับประทานได้ และผักกาดโตเร็ว พืชทั้งสองนี้เด็ก ๆ รู้จักดีและเก็บมาเป็นอาหารได้ วางลงในจานรองกระถาง เอาหัวหอมชำลงไป ใช้มีดตัดด้านบนของหัวออกและโปรยเมล็ดพันธุ์ผักกาดลงไป พรมน้ำให้ชื้นอยู่เสมอ แต่อย่าให้แฉะจนเกินไปและอย่าให้แห้ง หอมงอกเร็วกว่าผักกาด ผักกาดจะงอกหลังต้นหอมประมาณ 3 วันถ้าเด็กปลูกผักมาแล้ว ควรจะให้เปลี่ยนไปปลูกพืชจำพวกมีหัวบ้าง เช่น หอมหัวใหญ่จะได้นำไปทำอาหารที่บ้านได้ ในการปลูกพืชจำพวกถั่วจะทำให้เกิดความสนุก โดยใช้กระถางใส่ต้นมันจะให้ดอกเล็ก ๆ น่ารัก สำหรับผู้ที่มีสวนอาจจะอยากลองปลูกในสวนดูบ้าง ถ้าเขาชอบกินผักที่ปลูกเอง ผักกาดหอมและพวกพันธุ์ไม้ดอกก็น่าปลูก เพราะโตเร็วมาก พืชจำพวกใช้ดอกเป็นอาหาร เช่น กระหล่ำดอก เป็นต้น และไม้ดอกพวกยี่สุ่น ดาวเรือง ควรเลือกมาปลูก เพราะเป็นพืชที่แสดงการเติบโตให้ดอกผลเร็วมาก การให้อาหารนก ถ้าเป็นไปได้ควรให้เด็กได้ทำงานที่ยากขึ้น เช่น สร้างที่สำหรับให้อาหารนก เพื่อจะได้อาหารและจดบันทึกนกชนิดต่าง ๆ ที่ลูกเสือสนใจควรให้อาหารนกเป็นเวลาทุกวัน กะเวลาใกล้เคียงกัน นกบางชนิดชอบอยู่เป็นฝูง และชอบกินอาหารต่าง ๆ เช่น นกพิราบ นกกระจอก ชอบกินข้าวเปลือกหรือข้าวสาร นกบางชนิดชอบกินผลไม้ เช่น นกแก้วชอบกล้วย พริกก็สามารถกินได้ และบางทีชอบเสียด้วย นกเขาบางทีก็อยู่กันเป็นฝูง ส่วนมากมักจะบินไปเป็นคู่ ๆ ให้ลูกเสือสร้างโต๊ะขาเดียวเล็ก ๆ แล้วโปรยอาหารชนิดต่าง ๆ ไว้บนโต๊ะ แล้วลองสังเกตดูว่านกแต่ละชนิดที่มาจิกอาหารที่โปรยไว้นั้น มีนกอะไรบ้าง เรียกชื่อได้ไหม ตลอดจนนิสัยใจคอของนกแต่ละชนิด จะทำให้เด็กเกิดความสนุกสนาน แล้วบันทึกประสบการณ์เหล่านั้นไว้ เป็นการส่งเสริมลักษณะนิสัยในด้านการสังเกตพิจารณาต่อจากนั้นจะทำกำหนดเวลาให้อาหารแก่นกได้หรือไม่ นกบางชนิดที่ตัวใหญ่ก็กล้ามากินอาหารก่อนเพื่อน ส่วนนกตัวเล็ก เช่น นกกระจอกไม่ค่อยกล้า จะคอยหลบนกตัวใหญ่กว่า บางทีก็จะเลี้ยวไปทางอื่นเสีย ไม่กล้าเหมือนกับนกพวกอื่น เครื่องหมายดาวดวงที่ 3 ในขั้นนี้เด็กมีโอกาสเลือกปฏิบัติกิจกรรมได้มากมาย ผู้กำกับลูกเสือควรส่งเสริมความสนใจเป็นพิเศษของเด็กแต่ละคน วิธีที่ง่ายคือ ให้ผู้ใหญ่หนึ่งคนรับผิดชอบเด็กหลายคน ซึ่งทำงานโครงการเดียวกันและเพื่อนสามารถป้อนข้อมูลต่าง ๆ แก่เด็กได้ แต่กิจกรรมเครื่องหมายดาวดวงที่ 3 บางประเภท ควรเป็นการทำนายความสามารถของเด็ก ซึ่งจะช่วยให้เขาได้พัฒนาค้นพบ และเกิดความคิดเกี่ยวกับสิ่งต่าง ๆ ขยายความคิดเห็นของตนเองให้กว้างขว้างขึ้น การเลือกทำกิจกรรมจะขึ้นอยู่กับตำบลที่เด็กอาศัยอยู่ เพราะจะได้ความช่วยเหลือจากทางบ้านบ้าง เด็กในกองลูกเสือซึ่งตั้งอยู่ชานเมืองที่มีพ่อแม่คอยให้กำลังใจ จะสามารถใช้เวลาทำสมุดบันทึกสังเกตเกี่ยวกับนกในสวนของเขาได้หลายสัปดาห์ เด็กที่อยู่ในเมืองและได้รับความช่วยเหลือจากทางบ้านเพียงเล็กน้อย อาจจะต้องการความช่วยเหลือจากสมาคมที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ เมื่อออกเดินทางสำรวจไปกับหมู่ลูกเสือในชนบท เพื่อว่าจะสามารถใช้เวลาในตอนบ่ายทำกิจกรรมได้ เช่น ศึกษาถึงสัตว์ ที่มากินน้ำที่บ่อ (โดยดูจากสมุดธรรมชาติศึกษาของโรงเรียนหรือของกองลูกเสือ ถ้ามีว่าสัตว์หรือพืชที่มีชีวิตที่เขาจะนำไปสะสมไว้นั้น จะมีประโยชน์เกี่ยวกับการอนุรักษ์ธรรมชาติหรือไม่) ลูกเสือสำรองที่ต้องการที่จะพบเรื่องราวเกี่ยวกับท้องฟ้าเวลากลางคืนอาจใช้โอกาสแรก เพื่อศึกษาเรื่องนี้ในวันหยุดพักผ่อนของลูกเสือสำรอง ซึ่งเขาอาจไปอยู่ห่างไกลจากแสงสีของถนนชั่วคราว ค่ายพักแรมริมทะเลช่วยให้ลูกเสือมีช่วงเวลาที่สนุกสนานกับการเล่น เก็บหินรูปต่าง ๆ มากองไว้รวมกันที่ใดที่หนึ่งริมน้ำซึ่งสนุกกันได้ทุกวัย เด็กที่เลือกทำกิจกรรมเรื่องใดก็ตาม ต้องกระตุ้นให้เด็กเกิดความคิดสติปัญญา และสนใจในวิชานั้น ๆ โดยการถามนำเพื่อให้เด็กหาคำตอบในสิ่งนั้นด้วยคำว่า ทำไม? อะไร? และเมื่อไร หาหนังสือที่เหมาะกับเรื่องนั้น ๆ ให้เด็ก หรือพาเด็กไปหาคำตอบในห้องสมุดใกล้ ๆ ช่วยให้เด็กรู้ถึงความจำเป็นของการอนุรักษ์ธรรมชาติด้วยการถามคำถามประเภท ถ้าเราทำแม่น้ำลำคลองให้สกปรกแล้วจะเกิดอะไรขึ้น สัตว์ชนิดไหนจะได้รับอันตรายและจะสูญพันธุ์ไป จะมีวิธีป้องกันได้อย่างไร? นอกจากให้ภาพพจน์ที่ไม่น่าดูแล้ว อันตรายจากการทิ้งเศษกระดาษเกลื่อนตามแถวชนบทคืออะไร? และถ้าเป็นไปได้ให้ลูกเสือได้มีบทบาทเข้าร่วมในโครงการอนุรักษ์ธรรมชาติที่เหมาะกับเขาด้วย หรืออาจแนะนำเด็กลูกเสือให้ไปหาผู้ชำนาญการประจำท้องถิ่น ซึ่งสามารถจะช่วยเหลือเด็กได้มาก ท้ายที่สุดช่วยเด็กในการจำแนกสิ่งที่เขาค้นพบและให้ความรู้ต่าง ๆ ตามลำดับ แล้วเสนอแนะให้เขาจัดนิทรรศการ แล้วนำออกแสดงจะทำให้เขาเกิดความสนใจยิ่งขึ้น | |||||||
| |||||||
|